วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Planet Labs เตรียมส่งดาวเทียมขนาดเล็ก 28 ดวงเพื่อถ่ายภาพพื้นโลกจากอวกาศ

[Image credit: NASA]
ด้วยเป้าหมายที่ต้องการจะทำการเก็บภาพจากอวกาศเพื่อสังเกตการเปลี่ยนแปลงของโลก Planet Labs บริษัทจากรัฐคาลิฟอเนียประเทศสหรัฐอเมริกาได้เปิดเผยว่าจะทำการส่งดาวเทียมขนาดเล็กที่เรียกว่า Doves จำนวน 28 ดวงขึ้นไปสู่อวกาศ จุดมุ่งหมายของแผนการนี้คือเนื่องจากปัจจุบันนี้การถ่ายภาพจากอวกาศโดยดาวเทียมที่สร้างขึ้นมาเพื่อการถ่ายภาพจากอวกาศนั้นจะถ่ายภาพที่ความละเอียดสูงมาก และใช้เวลาส่งภาพกลับสู่โลกเป็นวันๆและมีค่าใช้จ่ายมหาศาล ทาง Planet Labs จึงได้ทำโครงการที่จะใช้กลุ่มดาวเทียมขนาดเล็กถ่ายภาพความละเอียดขนาดกลาง (mid-res) ร่วมกันแล้วส่งลงมายังโลกซึ่งจะใช้เวลาน้อยกว่าและมีค่าใช้จ่ายน้อย จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานในบริการประเภท Real-timeได้ โดยโครงการนี้รายละเอียดลึกๆยังไม่แน่ชัดมากนัก แต่ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนคาดว่ากุล่มดาวเทียมขนาดเล็กทั้งหมดน่าจะเข้าสู่วงโคจรต่ำของโลก (Low Earth Orbit) ภายในเดือนธันวาคมนี้ แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ทาง Planet Labs ได้ส่ง Doves ขึ้นไปทำการทดสอบก่อน 2 ดวงแล้วโดยทำการส่งไปเมื่อเดือนเมษายนที่เพิ่งผ่านมา ส่วนภาพที่ได้จากดาวเทียมทดสอบสามารถดูได้จากที่นี่ครับ

ที่มา Engadget.com ผ่าน Planet-Labs

Renesas ปิดฉากธุรกิจวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีไร้สายที่ได้ทำการซื้อมาจาก Nokia ในปี 2010


วันนี้ Renesas ยักษ์ใหญ่ในวงการอิเลกทรอนิกส์ของญี่ปุ่นได้ประกาศยุติการทำธุรกิจวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีไร้สายที่ได้ทำการซื้อมาจาก Nokia ในปี 2010 โดยมีพนักงานที่ได้รับผลกระทบกว่า 808 คน โดยในอดีตเนื่องจากทางโนเกียได้เปลี่ยนยุทธศาสตร์การทำธุรกิจทางด้านมือถือมาเป็นเน้นออกแบบและผลิตเท่านั้นจึงได้ขายแผนกวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีไร้สาย (R&D) ให้กับ Renesas ด้วยมูลค่า 200 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และเมื่อมีโทรศัพท์มือถือ Android ออกมาและ Nokia ประกาศจะเปลี่ยนไปสร้าง Windows Phone อีก ทำให้ยอดขายของ Renesas เองย่ำแย่เป็นอย่างมากดังนั้นแต่สำหรับพนักงานของ Renesas เองคงไม่ย่ำแย่เท่าไหร่เพราะในเมืองเดียวกันก็มี Nokia Siemens Networks ตั้งอยู่ และถัดไปทางทิศได้ของเมือง Espoo เองก็มี R&D Center ของ Samsung เพิ่งเข้ามาตั้งอยู่เช่นกัน

ที่มา : engadget.com ผ่าน The Wall Street Journal, YLE

วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2556

NVIDIA เปิดตัวหน่วยประมวลผล TEGRA 4


NVIDIA เปิดตัวหน่วยประมวลผลของตัวเองรุ่นใหม่ในนาม TEGRA 4 โดยมีคุณสมบัติเด่นดังนี้
- 72 custom NVIDIA GeForce GPU core (ประมวลผลกราฟฟิคเร็วกว่า TEGRA 3 6 เท่า)
quad-core ARM Cortex-A15 CPU (เร็วขึ้น 2.6 เท่าจากของเดิมเมื่อใช้งานแอพพลิเคชันทั่วไปและท่องอินเตอร์เน็ต)
- รองรับ 4G LTE ทั่วโลกผ่านการใช้งานชิปเซ็ตเสริม NVIDIA Icera® i500
- ปรับปรุงความสามารถในการถ่ายภาพและวิดีโอในโหมด HDR
- ประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม สามารถเล่นวีดีโอความละเอียดสูงได้อย่างต่อเนื่อง 14 ชั่วโมง

ที่มา: androidguys

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555

การแก้ไขให้ Android Application แสดง Splash Screen เพียงครั้งเดียว

เมื่อเราสร้าง Splash Screen ขึ้นมาแล้ว Android จะนับเป็น Activity ที่เปิดขึ้นมาและเมื่อเราเปิด Activity อื่นๆ Activity ของ Splash Screen จะถูกเก็บเข้าไปยังหน่วยความจำทำให้เมื่อเรากดปุ่ม back จากใน Activity หลักของเราจะทำให้กลับมาที่หน้าของ Splash Screen อีกทางแก้ก็คือให้แก้ไขไฟล์ AndroidManifest.xml แล้วใส่ android:noHistory="true" เข้าไปยังแท๊ก Activity ของ Splash Screen ซึ่งจะทำให้ Activity ของ Splash Screen ไม่ถูกเก็บเข้าสู่หน่วยความจำเมื่อเรากด back จาก Activity หลักก็จะทำให้ออกจาก Application ได้ทันที
ที่มา: stackoverflow.com 

การสร้าง Splash Screen สำหรับ Android Application

เนื่องจากผมประสบปัญหา Splash Screen ของ App Android ที่เขียนไว้ไม่สามารถใช้งานได้บน Android 4.0 ผมขออ้างอิงวิธีการแก้ปัญหาจาก StackOverFlow โพสนี้นะครับ โดย R.layout.splash คือหน้าจอของ Splash Screen ที่เราสร้างขึ้นเพื่อแสดงนะครับ ส่วน com.lars.DrinkRecOrder.splashscreen.DrinkRecOrderActivity คือ Activity ที่จะให้เปิดขึ้นเมื่อแสดง Splash Screen จบ
package com.lars.DrinkRecOrder;
import android.app.Activity;
import android.content.Intent;
import android.os.Bundle;
import android.os.Handler;
public class SplashScreen extends Activity {

    /** Called when the activity is first created. */
    @Override
    public void onCreate(Bundle savedInstanceState) {
        super.onCreate(savedInstanceState);
        setContentView(R.layout.splash);

        Handler handler = new Handler();
        handler.postDelayed(new Runnable() {
            public void run() {

                /* start the activity */
                startActivity(new Intent("com.lars.DrinkRecOrder.splashscreen.DrinkRecOrderActivity"));
            }
        }, 5000);

    }
}
ที่มา: stackoverflow.com

วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

NVIDIA เปิดตัว DirectTouch platform สัมผัสที่ลื่นขึ้นและใช้พลังงานที่น้อยลง


Picture from engadget.com
DirectTouch platform ที่ทาง NVIDIA ได้เปิดตัวนั้นเป็นการพัฒนาในส่วนของการสัมผัสบนหน้าจอโดยเปลี่ยนจากแบบเดิมที่การรับข้อมูลจากหน้าจอจะต้องผ่าน Controller ของ touch screen ก่อนแล้วจึงถูกส่งผ่านไปยัง CPU ของตัว Device (AD -> Controller -> CPU) เป็นการรับข้อมูลจากหน้าจอสัมผัสแล้วส่งผ่านไปที่ CPU ของตัว Device เลย (AD -> CPU) ทำให้ระบบสัมผัสสามารถประมวลผลการสัมผัสได้รวดเร็วยิ่งขึ้นและสามารถลดการใช้พลังงานด้วย แต่นี่ก็เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้นเพราะถึงแม้จะมีผลิต touch sensor หลายราย (SynapticsAtmel,N-trig, Raydium, Cypress , Focaltech) ออกมาเห็นด้วยกับเทคโนโลยีนี้แต่เทคโนโลยีนี้ก็ใช้ได้กับเพียงแพลทฟอร์ม Tegra 3 ของ NVIDIA เท่านั้น ซึ่งหากผู้ผลิต CPU รายอื่นจะใช้เทคโนโลยีนี้บ้างเราก็ไม่รู้จะทำให้มีปัญหาทางลิขสิทธิ์หรือไม่เพราะหากผู้ผลิด CPU แพลทฟอร์มอื่นไม่สามารถใช้เทคโนโลยีนี้ได้ทางฝั่งผู้ผลิต touch sensor ก็จะไม่สามารถผลิต touch sensor ที่รองรับ DirectTouch platform ในจำนวนมากๆได้แต่ถึงอย่างไรก็ดีก็เป็นแนวโน้มที่ดีหาก Android Device จะมีการรับสัมผัสบนหน้าจอที่รวดเร็วและแม่นยำได้ไกล้เคียง iOS Device เสียที




ที่มา: engadget.com

วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2554

Nvidia เข้าซื้อกิจการบริษัทผลิตโมเด็มไร้สายนาม Icera



        Nvidia ไม่เพียงต้องการผลิตหน่วยประมวลผลสำหรับอุปกรณ์พกพาเช่น Tegra 2 เท่านั้น ล่าสุด Nvidia ได้เข้าซื้อบริษัทผลิต โมเด็มไร้สายนามว่า Icera ด้วยมูลค่า 367 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ 
        ในอุปกรณ์พกพาไร้สายเช่นสมาร์ทโฟนนั้นจะมีส่วนที่เป็นโมเด็มไร้สายเพื่อเชื่อมต่อโทรศัพท์ของเราเข้ากับผู้ให้บริการเครือข่ายต่างๆ Icera ก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นในตลาดนี้ด้วยเหมือนกันโดยได้ออกผลิตภัณฑ์ตัวล่าสุดออกมาชื่อว่า Espresso 450 ซึ่งได้ถูกใช้อยู่ในหน่วยประมวลผล Tegra ของ Nvidia อยู่แล้วดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหาก Nvidia จะเข้าซื้อ Icera
        เราทุกคนต่างก็รู้ว่าหลายๆสิ่งกำลังเริ่มร้อนแรงขึ้นในอุตสาหกรรมผลิตชิปเซ็ตสำหรับอุปกรณ์พกพา Nvidia จึงหวังว่าการซื้อ Icera เข้ามาในครั้งนี้จะช่วยให้ Nvidia สามารถที่จะผลิตหน่วยประมวลผลแบบ all-in-one สำหรับอุปกรณ์พกพาแทนที่จะแยกออกจากกันดังนั้นจับตามดูกันให้ดีดีว่า Nvidia จะมีอะไรออกมาให้เราได้ดูกันบ้างและคู่แข่งจะมีเทคโนโลยีอะไรออกมาแข่งบ้าง